วันอังคารที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2552


บ้านดนตรีในจังหวัดสมุทรสงคราม

ถ้ำพุหวายเป็นถ้ำขนาดใหญ่ ภายในถ้ำกว้างขวาง มีหินงอกหินย้อย เช่น รูปเจดีย์ อ่างน้ำ ทางเข้าถ้ำอยู่บนไหล่เขาต้องเดินขึ้นไปเข้าชม: 16 ความคิดเห็น: 0Tags :อุทยานภูเขาถ้ำเจดีย์
เหมืองแร่ทองคำเขาพนมพาเป็นเนินเขาขนาดเล็ก มีลักษณะเป็นเขาลูกโดดครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 200 ไร่เข้าชม: 7 ความคิดเห็น: 0Tags :
อุทยานเมืองเก่าพิจิตรภายในบริเวณกำแพงเมืองมีพื้นที่ประมาณ 400 ไร่เศษ มีลักษณะเป็นเมืองโบราณ ประกอบไปด้วย กำแพงเมือง คูเมือง เจดีย์เก่า ฯลฯเข้าชม: 6 ความคิดเห็น: 0Tags :อุทยานถ้ำเกาะ
วัดโรงช้างวัดนี้เป็นวัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยาเมื่อสมัยพระยาโคตรบองขึ้นครองราชย์ สถานที่แห่งนี้เรียกว่า กองช้างเข้าชม: 8 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดโพธิ์ประทับช้างวัดนี้ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของแม่น้ำพิจิตรเก่า หน้าวัดมีต้นตะเคียนซึ่งกล่าวกันว่ามีอายุราว 260 ปีเข้าชม: 6 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดเขารูปช้างมีเจดีย์แบบลังกาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้าง แต่เดิมเป็นเจดีย์เก่ามาก่อน และทางวัดได้ทำการปฏิสังขรณ์ใหม่เข้าชม: 9 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดห้วยเขนภายในวัดมีโบสถ์เก่าซึ่งกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนอนุรักษ์ไว้เข้าชม: 6 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดหิรัญญาราม หรือ วัดบางคลานสิ่งก่อสร้างที่น่าสนใจของวัดนี้คือ พิพิธภัณฑ์นครไชยบวร เป็นพิพิธภัณฑ์รูปมณฑป 2 ชั้นเข้าชม: 7 ความคิดเห็น: 0Tags :วัดพิพิธภัณฑ์
วัดหัวดงได้พบพระรูปเหมือนหลวงพ่อเงินขนาดหน้าตักกว้าง 5 นิ้ว เนื้อนวโลหะ(ทองเหลือง)เข้าชม: 7 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดบ้านน้อยเป็นอีกวัดหนึ่งที่มีการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อเงินในลักษณะประติมากรรมศิลปะจักสานด้วยเส้นลวดทองเหลืองของวัดบ้านน้อยเข้าชม: 9 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดนครชุมวัดนี้เป็นวัดที่สร้างในสมัยสุโขทัย มีอายุราว 800 ปี ด้านตะวันออกมีพระอุโบสถเก่าแก่มากเข้าชม: 6 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดท่าหลวงวัดท่าหลวงเป็นวัดสำคัญของจังหวัดพิจิตร อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ถนนบุษบา ใกล้ศาลากลางจังหวัดเก่าเข้าชม: 9 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดท่าช้างภายในวัดมีพระพุทธรูปหินที่เก่าแก่คู่บ้านคู่เมือง พระพุทธรูปสลักด้วยหินทรายเข้าชม: 11 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วัดทับคล้อ (สวนโพธิสัตว์)ภายในมีสถานที่สำหรับปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน มีความสวยงาม เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราเข้าชม: 7 ความคิดเห็น: 0Tags :วัด
วนอุทยานนครไชยบวรเป็นแหล่งพื้นที่ป่าผืนสุดท้ายของพิจิตร มีต้นไม้ยางขนาดใหญ่ขึ้นอยู่หนาแน่น ช่วงฤดูหนาวจะมีนกมีอาศัยเป็นจำนวนมาก มีอาคาร และสถานที่พเข้าชม: 8 ความคิดเห็น: 0Tags :อุทยาน
บึงสีไฟบึงสีไฟเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ มีเนื้อที่ประมาณ 5,000 ไร่ และเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองเข้าชม: 12 ความคิดเห็น: 0Tags :แม่น้ำ
เมืองโบราณโคกไม้เดนพบซากกำแพงเนินดิน ซึ่งแสดงถึงความเป็นเมืองเก่าสมัยสุโขทัย เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร ได้ขุดพบรูปปั้นช้างพญาฉัททันต์ อายุกว่า 1,000 ปีเข้าชม: 7 ความคิดเห็น: 0Tags :ความรู้โบราณสถาน
เขาพระ – เขาสูงเป็นดินแดนมหัศจรรย์ที่มีทรัพยากรอันทรงคุณค่าอย่างยิ่ง อาทิ หินแกรนิตสีชมพู หินสีดำ และหินมรกต บนยอดเขาเข้าชม: 5 ความคิดเห็น: 0Tags :ภูเขาวัด
วัดบางมะฝ่อเป็นวัดเก่าแก่สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย จุดน่าสนใจอยู่ที่โบสถ์ มีประตูหน้าต่างรูปทวารบาลเข้าชม: 4 ความคิดเห็น: 0Tags :วัดโบสถ์วิหาร
วัดถ้ำพรสวรรค์ภายในถ้ำติดตั้งระบบไฟฟ้า และประปา ด้านข้างปากทางเข้าถ้ำมีพระพุทธบาทเกือกแก้วเข้าชม: 7 ความคิดเห็น: 0Tags :โบราณวัตถุถ้ำ

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต

จังหวัดภูเก็ต :: สถานที่ท่องเที่ยว อำเภอเมือง

เขารังเป็นเนินเขาเตี้ยๆ อยู่หลังตัวเมืองทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ รถยนต์สามารถขึ้นไปจนถึงยอดเขา เทศบาลจัดเป็นสวนสุขภาพและสวนสาธารณะ เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ และชมทิวทัศน์ของเมืองภูเก็ต จากยอดเขาจะแลเห็นตัวเมืองภูเก็ต ทะเลกว้าง เกาะเล็ก เกาะน้อย รวมทั้งทิวทัศน์ของเกาะทั้งใกล้และไกล
สะพานหินสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายในตัวเมือง อยู่สุดถนนภูเก็ตซึ่งยื่นลงไปในทะเลเล็กน้อย เป็นที่ตั้งของอนุสาวรีย์หลัก 60 ปี ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2521 เพื่อเป็นที่ระลึกแก่กัปตันเอ็ดเวิร์ด โธมัสไมล์ ชาวออสเตรเลียผู้นำเรือขุดแร่ลำแรกมาใช้ขุดแร่ดีบุกในประเทศไทย เมื่อ พ.ศ. 2452
ตึกสมัยเก่าในตัวเมืองภูเก็ตส่วนมากเป็นตึกสมัยเก่าแบบยุโรป สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยเมื่อเกือบร้อยปีมาแล้ว เมื่อครั้งกิจการเหมืองแร่เริ่มเจริญใหม่ๆ ตึกสมัยเก่าเหล่านี้ได้รับอิทธิพลทางด้านสถาปัตยกรรมแบบจีนด้วยจึงเรียกว่า สถาปัตยกรรมแบบซิโน-โปรตุกีส ลักษณะตึกสมัยเก่าของภูเก็ตนั้นจะมีส่วนลึกมากกว่าส่วนกว้างและไม่สูงนัก ปัจจุบันจะหาดูได้บริเวณถนนถลาง ถนนดีบุก ถนนพังงา ถนนเยาวราช และถนนกระบี่ นอกจากนี้ยังมีตึกโบราณที่มีลักษณะทางสถาปัตยกรรมแบบยุโรป ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ศาลจังหวัดภูเก็ต และธนาคารนครหลวงไทย เป็นต้น
เกาะสิเหร่ เป็นเกาะขนาดเล็กอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะภูเก็ต อยู่ห่างจากตัวเมืองรวม 4 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 20 ตารางกิโลเมตร ปัจจุบันนี้ถือเป็นพื้นที่อันเดียวกับเกาะภูเก็ต มีคลองเล็กๆ ชื่อคลองท่าจีนคั่นเท่านั้น ประชากรที่เกาะสิเหร่นี้ส่วนหนึ่งเป็นชาวเล หรือชาวน้ำ ซึ่งมีจำนวนมากที่สุดในจำนวนชาวเลที่อาศัยอยู่ในเกาะภูเก็ต เกาะสิเหร่ เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์มีพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่อยู่บนยอดเขา ชายหาดไม่เหมาะสำหรับการการเล่นน้ำ พื้นทรายมีโคลนปน
หมู่บ้านชาวเลชาวเลหรือชาวน้ำ หรือชาวไทยใหม่ เป็นชนกลุ่มน้อยของไทย อาศัยอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ส่วนใหญ่อยู่ตามเกาะในมหาสมุทรอินเดีย ในเกาะภูเก็ตมีชาวเลอาศัยอยู่ที่หาดราไว ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต ประมาณ 17 กิโลเมตร และที่เกาะสิเหร่บริเวณแหลมตุ๊กแก
วัดฉลองอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 8 กิโลเมตร ออกจากตัวเมืองไปตามทางหลวงหมายเลข 4021 ผ่านสามแยกบริเวณสนามกีฬาสุรกุล เลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกฉลอง วัดฉลองจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงห้าแยกฉลองประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของภูเก็ต มีรูปหล่อของหลวงพ่อแช่ม และหลวงพ่อช่วง ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของชาวภูเก็ตทั่วไป
อ่าวฉลองอยู่ห่างตัวเมือง 11 กิโลเมตร ทางทิศใต้ของเกาะภูเก็ตไปตามทางที่ไปหาดราไว เมื่อถึงห้าแยกฉลองเลี้ยวซ้ายประมาณ 1 กิโลเมตรถึงอ่าวฉลอง มีสะพานไม้ทอดยาวไปในทะเล ชายหาดเป็นรูปโค้งยาวเหยียดมองเห็นทิวมะพร้าวริมหาดเอนลู่ออกทะเล ทะเลบริเวณนี้ไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ เพราะหาดเป็นโคลน ที่อ่าวฉลองนี้นักท่องเที่ยวจะเช่าเรือไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ หรือเช่าไปตกปลาได้
หาดแหลมกาใหญ่เป็นหาดเล็กๆ ห่างจากตัวเมือง 16 กิโลเมตร จากห้าแยกฉลอง ใช้ทางหลวง 4024 ทางเข้าอยู่ตรงข้ามวัดสว่างอารมณ์ บริเวณหาดมีเรือให้เช่าไปเที่ยวตามเกาะต่างๆ เช่น เกาะเฮ เกาะบอน เป็นต้น
หาดราไวอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 17 กิโลเมตร เส้นทางจาห้าแยกฉลองไปสู่หาดราไว (ทางหลวง 4024) เป็นเส้นทางที่สวยที่สุดสายหนึ่งของภูเก็ต หาดราไว เป็นหาดที่สวยงามและมีชาวเลอาศัยอยู่
เกาะแก้วอยู่ห่างจากหาดราไวประมาณ 3 กิโลเมตร นั่งเรือจากหาดราไวประมาณ 30 นาที มีหาดทรายและธรรมชาติใต้น้ำสวยงามมาก บนเกาะมีรอยพระพุทธบาทจำลองประดิษฐานอยู่ด้วย
แหลมพรหมเทพอยู่ห่างจากหาดราไวประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า บริเวณแหลมพรหมเทพเป็นส่วนที่สวยงามที่สุดส่วนหนึ่งของเกาะภูเก็ต เหนือแหลมพรหมเทพเป็นที่ราบสำหรับจอดรถซึ่งอยู่บนหน้าผาสูงริมทะเล จากหน้าผานี้จะมองเห็นแหลมพรหมเทพทอดยาวออกไปในทะเล จะเห็นเกาะหลายเกาะรวมทั้งเกาะแก้ว ทางด้านขวามือจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหานชัดเจน จากบนหน้าผามีทางเดินลงเขาไปจนถึงสุดแหลมพรหมเทพได้ เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกได้งดงามยิ่งนัก
หาดในหานเป็นหาดที่อยู่ถัดจากแหลมพรหมเทพขึ้นไปทางทิศเหนือ อยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ตประมาณ 18 กิโลเมตร มีทางไปได้หลายทาง จะไปจากหาดราไวโดยผ่านหรือไม่ผ่านแหลมพรหมเทพก็ได้ หรือถ้ามาจากห้าแยกฉลองไปทางหาดราไวประมาณ 3 กิโลเมตร จะมีทางแยกขวาไปบ้านใสยวน หนองหาน ประมาณ 4 กิโลเมตร ชายหาดในหานไม่ยาวนัก หาดทรายขาวสะอาด ด้านหลังของชายหาดเป็นบึง ชาวบ้านเรียกว่าหนองหาน ระหว่างทะเลและบึงมีเพียงหาดทรายของหาดในหานขวางกั้นอยู่เท่านั้น ในช่วงฤดูมรสุมระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม คลื่นจะแรงมาก ไม่ควรลงเล่นน้ำเพราะอาจเกิดอันตรายได้
อ่าวเสนเป็นอ่าวเล็กๆ ติดกับหาดในหานไปทางขวา ผ่านโรงแรมภูเก็ตยอช์ทคลับ เป็นชายหาดเล็กๆ ที่สงบ มีโขดหินน้อยใหญ่ หาดทรายขาวสะอาด
จุดชมวิวจากหาดในหานไปหาดกะตะน้อยตามเส้นทางถนนรอบเกาะ จุดชมวิวจะอยู่ระหว่าง 2 หาดนี้ จากจุดนี้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเวิ้งอ่าวถึง 3 อ่าว คือ อ่าวกะตะน้อย อ่าวกะตะ และอ่าวกะรน ซึ่งเป็นทัศนียภาพที่สวยงามมาก
อ่าวกะตะอยู่ห่างจากตัวเมืองภูเก็ต 17 กิโลเมตร จากตัวเมืองภูเก็ต เมื่อถึงห้าแยกฉลอง เลี้ยวขวาไปตามทางตามถนนหมายเลข 4028 อ่าวกะตะแบ่งออกเป็น 2 อ่าวคือ อ่าวกะตะใหญ่ กับอ่าวกะตะน้อย ทั้งสองอ่าวมีหาดทรายและชายหาดที่สวยงามเหมาะแก่การเล่นน้ำ และใช้เป็นที่ฝึกดำน้ำ เนื่องจากมีแนวปะการังติดต่อกันไปจนถึงเกาะปูซึ่งอยู่ด้านหน้าหาดกะตะ ปัจจุบันหาดกะตะ เป็นหาดหนึ่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สถานที่พัก บริษัทนำเที่ยว ร้านค้า แหล่งบันเทิงต่างๆ ไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยว
อ่าวกะรนอยู่ถัดจากอ่าวกะตะขึ้นไปทางเหนือมีเพียงเนินเขาเตี้ยๆ คั่นอยู่เท่านั้น แต่ถ้าจะไปที่กลางอ่าวกะรนและหมู่บ้านกะรน มีถนนแยกจากอ่าวกะตะไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร อ่าวกะรนใหญ่กว่าอ่าวกะตะ มีชายหาดยาวเหยียด เหนือชายหาดเป็นเนินทรายสูงๆ ต่ำๆ มีสนทะเลต้นใหญ่ๆ และต้นตาลขึ้นเรียงรายอยู่โดยทั่วไป หาดทรายที่อ่าวกะรนขาวสะอาดและละเอียดมาก
สถานแสดงพันธ์สัตว์น้ำ ตั้งอยู่ที่ปลายแหลมพันวา มีพันธุ์ปลาน้ำจืดและน้ำเค็มกว่า 100 ชนิด แสดงให้ชม เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 08.30-16.00 น. ทุกวัน ค่าเข้าชมเด็กและนักเรียน นักศึกษา คนละ 5 บาท ผู้ใหญ่คนละ 20 บาท จากตลาดบริเวณถนนระนองจะมีรถสองแถวรับจ้างออกตั้งแต่เวลา 09.00 น. ทุกๆ ชั่วโมง จนถึง 15.00 น. รายละเอียดติดต่อโทร. (076) 391126, 391041
สวนผีเสื้อและอควาเรียมภูเก็ตตั้งอยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร เดินทางไปตามถนนเยาวราชแล้วเลี้ยวซ้ายที่สามแยกหมู่บ้านสามกองไปเล็กน้อย เป็นสถานที่รวบรวมและอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตในเขตร้อนจำพวกผีเสื้อ แมลง ปลา และปะการัง โดยจัดสภาพแวดล้อมให้เหมือนกับธรรมชาติ เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.30 น. ค่าเข้าชม เด็ก 10 บาท ผู้ใหญ่ 40 บาท ชาวต่างประเทศเด็ก 50 ชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 120 บาท รายละเอียดติดต่อ โทร. (076) 215616, 210861
หมู่บ้านไทยและสวนกล้วยไม้ภูเก็ตอยู่ห่างจากตัวเมือง 3 กิโลเมตร บนถนนเทพกษัตรีย์ ภายในมีการแสดงศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน การแสดงของช้าง ฟาร์มกล้วยไม้ ฯลฯ เปิดตั้งแต่เวลา 09.00-21.00 น. การแสดงรอบเช้าเริ่มเวลา 11.00 น. รอบเย็นเวลา 17.30 น. ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 50 บาท เด็ก 25 บาท ชาวต่างประเทศผู้ใหญ่ 230 บาท ชาวต่างประเทศเด็ก 120 บาทรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (076) 214860-1
ฟาร์มชนะเจริญตั้งอยู่ที่ถนนชนะเจริญ หลังโรงภาพยนตร์พาราไดซ์ในตัวเมืองภูเก็ต เป็นฟาร์มเลี้ยงจระเข้น้ำจืดและจระเข้น้ำเค็ม เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-17.30 น. มีการแสดงของช้าง วันละ 2 รอบ เวลา 12.30 น. และ 14.45 น. ค่าเข้าชมคนไทย 40 บาท ชาวต่างประเทศ 200 บาท รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ โทร. (076) 211087

สถานที่ท่องเที่ยวในภาคกลาง

1.วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า วัดพระแก้ว นั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นพร้อมกับการสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ แล้วเสร็จในปี พ.ศ. ๒๓๒๗
เป็นวัดที่สร้างขึ้นในเขตพระบรมมหาราชวัง ตามแบบวัดพระศรีสรรเพชญ สมัยอยุธยา วัดนี้อยู่ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ทางทิศตะวันออก มีพระระเบียงล้อมรอบเป็นบริเวณ เป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา รัชกาลที่ ๑ โปรดเกล้าให้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรหรือพระแก้วมรกต พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของไทย มาประดิษฐาน ณ ที่นี้ วัดพระศรีรัตนศาสดารามนี้ ภายหลังจากการสถาปนาแล้ว ก็ได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชกาล เพราะเป็นวัดสำคัญ จึงมีการปฏิสังขรณ์ใหญ่ทุก ๕๐ ปี คือในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลปัจจุบัน
2.วัดหงส์รัตนาราม(วัดเจ๊สัวหง) ตั้งอยู่ที่เขตบางกอกใหญ่ เป็นวัดในสมัยอยุธยาตอนปลาย มาบูรณะในสมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี และครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาล ที่ 3 เพื่อถวายพระกุศลให้ท่านแก้วพระอัยยิกา ชื่อของวัดจึงประกอบด้วยสองคำ คือ คำว่า หงส์ นั้นมาจากคำว่า อาฮง แถบนี้เคยมีชุมชนชาวจีนมาอยู่ก่อน ต่อมามีชุมชนชาวมอญมาอยู่ ส่วนคำว่า รัตนา มาจากชื่อของท่านแก้ว โบสถ์ที่สร้างสมัยสมเด็จพระเจ้าตาก พระองค์มักจะเสด็จมานั่งวิปัสสนากรรมฐานที่วัดนี้ด้วย เมื่อบูรณะใหม่สมัยรัชกาลที่ 3 เป็นลักษณะทางสถาปัตยกรรม สมัยอยุธยาตอนปลาย แต่ที่เสาภายในพระอุโบสถเป็นแบบอยุธยาตอนต้นซึ่งนำแบบอย่าง มาจากสุโขทัยเป็นเสากลมเรียงเข้าไปแบ่งได้ เจ็ดห้อง เขียนลายพุ่มข้าวบิณฑ์ประดับด้วยดอกพุดตานด้านใน ตรงเพดาน ทำลดหลั่นกันเป็นชั้น มีกระดานคอสองและมีหงส์ ฐานแบบตกท้องช้าง

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552